สิ่งที่ต้องรู้ก่อนส่งของไปมาเลเซีย

ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกันกับประเทศไทย ทำให้การค้าขายระหว่างสองประเทศมีกันมาอย่างยาวนาน ประกอบกับชาวมาเลเซียนิยมบริโภคอาหารและการท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงทำให้มีการนำเข้าส่งออกกันค่อนข้างมาก ดังนั้นเมื่อจะต้องมีการส่งของไปมาเลเซีย จึงต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศมาเลเซียเสียก่อน CPLINTER จึงมาแนะนำสิ่งที่เป็นความรู้ก่อนส่งของไปมาเลเซียกันค่ะ

ช่องทางการขนส่งสินค้าไปประเทศมาเลเซีย

มีช่องทางการส่งของไปมาเลเซียทั้งหมด 2 ช่องทาง คือ

1) การขนส่งสินค้าทางเรือ (SEA FREIGHT)

การขนส่งสินค้าผ่านทางเรือ หรือทางน้ำ เป็นการขนส่งที่เหมาะกับสินค้าขนาดใหญ่ และสินค้าที่นำมาจัดส่งต้องไม่เป็นสินค้าที่เร่งด่วนสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น มี 2 ประเภท คือการขนส่งทางเรือแบบLCL เป็นการขนส่งแบบบรรจุไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ และการขนส่งแบบFCL เป็นการขนส่งแบบบรรจุเต็มตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีทั้งแบบตู้ขนาด 20 ฟุต 40 ฟุต และแบบ 40 ฟุตไฮคิวบ์ ใช้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าประมาณ 5 – 10 วัน

2) การขนส่งสินค้าทางรถ (TRUCKING FREIGHT)

การขนส่งสินค้าผ่านทางรถ หรือทางบก เป็นการขนส่งที่เหมาะกับสินค้าที่มีปริมาณมาก และมีขนาดปานกลาง ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น มี 2 ประเภท คือการขนส่งทางรถแบบLTL เป็นการขนส่งแบบบรรจุไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ และการขนส่งทางรถแบบFTL เป็นการขนส่งแบบบรรจุเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ใช้ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าประมาณ 7 – 10 วัน  

สินค้าที่น่าส่งออกไปประเทศมาเลเซีย

1) สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป

โดยเฉพาะสินค้าที่มีตราฮาลาล เพราะส่วนใหญ่ชาวมาเลเซียเป็นมุสลิมจึงไม่รับประทานเนื้อหมูและเคร่งกับการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก นิยมรับประทานอาหารแบบสำเร็จรูปหรืออาหารแปรรูป ประกอบกับอาหารของไทยเป็นที่นิยมของชาวมาเลเซีย เนื่องจากอาหารของไทยมีลักษณะคล้ายอาหารของมาเลเซีย จึงเป็นโอกาสที่น่าส่งออกอาหารฮาลาลไปประเทศมาเลเซีย

2) สินค้าผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม

ประชากรชาวมาเลเซียให้ความสำคัญและดูแลสุขภาพความงามกันค่อนข้างมาก จึงนิยมนำเข้าเครื่องสำอางและอุปกรณ์สปาต่างๆที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์ออแกนิค อย่างเช่น Essential oils, Aromatheapy เป็นต้น จากประเทศไทย เพราะสมุนไพรของไทยมีกลิ่นที่หอมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งประชากรชาวมาเลเซียมีรายได้ที่สูง จึงเป็นโอกาสที่น่าส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์และความงามไปประเทศมาเลเซียอีกอย่างหนึ่ง

3) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

ประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศที่เน้นเทคโนโลยีและความสะดวกสบายเป็นหลัก จึงเป็นเหตุให้ชาวมาเลเซียต้องการเทคโนโลยีด้านITเป็นอย่างมาก และสินค้าของไทยได้รับมาตรฐานสินค้าที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากประเทศมาเลเซีย จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ไปยังประเทศมาเลเซีย

กฏระเบียบการนำเข้าประเทศมาเลเซีย

1) โดยส่วนใหญ่แล้วชาวมาเลเซียเป็นประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม สินค้าประเภทอาหารจึงต้องมีตราฮาลาลกำกับไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถนำเข้าประเทศมาเลเซียได้ และการส่งของไปมาเลเซียยังมีกฎระเบียบอื่นๆ เช่น การระบุฉลากสินค้าอาหาร บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น 2) สินค้าที่นำเข้าประเทศมาเลเซีย ก่อนที่ผู้รับปลายทางจะนำสินค้าออกจะต้องเสียภาษีอากร สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 500 ริงกิตหรือประมาณ 3,500 บาท จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีอากร และสินค้าบางชนิดจะต้องเสียภาษีอากรเก็บเฉพาะสินค้า เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยจะถูกเรียกเก็บอัตราภาษีสูงกว่าสินค้าอุปโภคบริโภค หรือสูงกว่าสินค้าทั่วไป ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มประเทศมาเลเซียจะเรียกเก็บที่อัตราร้อยละ 10   สรุปแล้วในการจะส่งของไปมาเลเซียนั้น ผู้ส่งออกควรที่จะต้องทราบข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจหรือลงทุนกับประเทศมาเลเซีย หากต้องการส่งออก CPLINTER ให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม พร้อมบริการอื่นๆอีกมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นบริการแพ็คสินค้า เตรียมเอกสารสำหรับส่งออก เดินพิธีการขาเข้าและขาออก สนใจส่งออก-นำเข้า สินค้า ติดต่อสอบถามซีพีแอล โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426  Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยค่ะ