ระบบ Track & Trace คืออะไร

ในทุกๆวันนี้ระบบออนไลน์ หรือการทำงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญ และทำให้ทุกองค์กรสามารถนำไปต่อยอด และพัฒนาปรับใช้กับรูปแบบการทำงานและดำเนินธุรกิจ ทำให้การทำงานต่างๆเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น เช่นเดียวกับระบบ Track & Trace ในงานด้านโลจิสติกส์ ที่จะช่วยให้การติดตามข้อมูลต่างๆเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หลายๆองค์กรในไทยเริ่มนิยมนำระบบนี้เข้ามาปรับใช้มากขึ้น ซึ่งระบบ Track & Trace คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร เรามาทำความเข้าใจกับสิ่งนี้กัน

ระบบ Track & Trace คืออะไร

Track & Trace เป็นระบบที่ส่วนมากนิยมนำมาใช้สำหรับติดตามวัสดุ เอกสาร หรือสินค้าต่างๆ ให้สามารถติดตามข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และบันทึกข้อมูลได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆแล้ว ระบบ Track & Trace ไม่ได้มีความเฉพาะเจาะจงในเรื่องของการติดตามวัสดุ หรือเอกสารในการจัดส่งกันเพียงอย่างเดียว แต่ระบบนี้ยังถูกนำไปใช้ในการบันทึกข้อมูลให้กับตัวสินค้า และการตรวจสอบความถูกต้องสินค้า เช่น การเคลื่อนที่ของสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง วันที่ผลิต/วันหมดอายุ ข้อมูลจำเพาะอื่นๆของสินค้า เป็นต้น ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในระบบ Track & Trace เป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค และยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากตัวบรรจุภัณฑ์เลยอีกด้วย ซึ่งรูปแบบของการติดตั้งระบบเหล่านี้บนตัวสินค้า จะมีอยู่ทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ บาร์โค้ดแบบ 1 มิติ ชนิด GS1-128 และบาร์โค้ดแบบ 2 มิติ ชนิด GS1-DataMatrix โดยเข้าถึงข้อมูลได้เพียงสแกนผ่านสมาร์ทโฟนก็จะทราบข้อมูลทั้งหมดได้ทันทีนั่นเอง

ข้อดีของระบบ Track & Trace

ช่วยให้การทำงานสามารถตรวจสอบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพียงสแกนบาร์โค้ดผ่านสมาร์ทโฟนก็จะสามารถทราบข้อมูลได้ทันที เช่น การเคลื่อนที่ของสินค้าและเส้นทางการเดินรถที่เริ่มตั้งแต่โรงงานผลิตไปจนถึงปลายทาง สำหรับตรวจเช็คบุคลากรภายในองค์กร และการตรวจสอบที่มาที่ไปต่างๆของสินค้า สำหรับผู้บริโภค
ช่วยให้การติดตามสินค้าสามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น สินค้าของคุณไปถึงจุดใดแล้ว และทำให้เกิดความรู้สึกอุ่นใจ และสบายใจได้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลสินค้า และผลิตภัณฑ์ได้ครบถ้วน เพียงแค่สเกนบาร์เท่านั้น

ระบบ Track & Trace นั้นก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมดีๆที่ช่วยสร้างความรู้สึกอุ่นใจ และสบายใจให้กับผู้บริโภคกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งในด้านของกลุ่มองค์กรและธุรกิจด้านต่างๆ การนำระบบนี้เข้ามาใช้ในการตรวจสอบสินค้า นอกจากจะช่วยให้เกิดความต่อเนื่องของการดำเนินกิจการแล้ว ก็ยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้นอีกวิธีหนึ่งด้วย ซึ่งหากต้องการความอุ่นใจและสบายใจในเรื่องการส่งออก-นำเข้าสินค้าเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งบริการอำนวยความสะดวกต่างๆอีกมากมาย ทั้งรับสินค้าฟรี หรือแพ็คสินค้าฟรี ดูแลเอกสาร พร้อมอัพเดตสถานะสินค้าให้ตลอด 24 ชั่วโมง CPLINTER ยินดีให้บริการ และให้คำปรึกษาทุกการขนส่ง สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426 Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com และฝากติดตามสาระน่ารู้จากรายการของเรา CPL What is ด้วยนะคะ