GPS Tracking มีประโยชน์ต่อโลจิสติกส์อย่างไร

GPS Tracking เป็นระบบติดตามตำแหน่งด้วยดาวเทียม และมีการติดตั้งตัว Tracker ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดตามยานพาหนะรถยนต์ส่วนตัว รถขนส่ง สินค้า หรือบุคคลก็สามารถติดตามได้ โดยอาศัยตำแหน่งของดาวเทียมในการอ้างอิง ซึ่งมีความแม่นยำอยู่ในระดับสูงที่จะช่วยชี้พิกัดตำแหน่งและมีความคลาดเคลื่อนน้อยมากเพียงไม่เกิน 100 เมตร ปัจจุบันจึงได้มีการนำ GPS Tracking มาใช้เพื่อประโยชน์ในด้านของความปลอดภัยและช่วยในการวางแผนเส้นทางซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบโลจิสติกส์

ประโยชน์ของ GPS Tracking ต่อระบบโลจิสติกส์

สามารถติดตามตำแหน่งพิกัดรถขนส่งได้อย่างแม่นยำ จะช่วยบริหารจัดการในการใช้งานรถขนส่งให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
สามารถจัดตารางเวลาการขนส่งได้ เพราะสามารถติดตามได้ว่ารถแต่ละคันมีการเดินทางไปตามเส้นทางที่กำหนดหรือไม่ ป้องกันการออกนอกเส้นทาง
สามารถจัดการเส้นทางเพื่อให้รถขนส่งเดินทางไปยังปลายทางได้รวดเร็วที่สุด โดยไม่เสียเวลากับการเดินทาง และช่วยประหยัดค่าน้ำมัน
สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพราะสามารถติดตามตำแหน่งรถขนส่งได้ว่าสินค้าอยู่ตำแหน่งไหน จะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่
บันทึกการเดินทางได้ตลอดเส้นทาง ทำให้หลีกเลี่ยงการใช้รถเพื่อเรื่องส่วนตัว รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ติดตามตำแหน่งพิกัดได้แบบเรียลไทม์ แม้ว่ารถอาจถูกขโมยก็ยังสามารถติดตามและนำรถกลับคืนมาได้ผ่านระบบ GPS
สามารถเช็คระบบ GPS ผ่านทางสมาร์ทโฟนได้

ดังนั้น GPS Tracking มีประโยชน์ต่อการขนส่งทางโลจิสติกส์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ค่าใช้จ่ายต่างๆมีแนวโน้มสูงขึ้น การมีระบบGPS Tracking ก็สามารถช่วยให้ธุรกิจทางด้านโลจิสติกส์ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ควบคุมประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยความแม่นยำของข้อมูลอีกด้วย และถ้าหากสนใจนำเข้าส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ CPLINTER ก็มีบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเครื่องบิน ทางเรือ และทางรถ ครอบคลุมหลายประเทศทั่วโลก พร้อมแพ็คสินค้า ให้คำปรึกษาก่อนจัดส่งสินค้า ทั้งเรื่องสินค้า จัดการเอกสารต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ ซีพีแอลยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจ สำหรับผู้ที่สนใจส่งออก-นำเข้าสินค้า สามารถติดต่อสอบถามซีพีแอล โทร 02-519-4426, 063-519-4426, 091-519-4426 Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยนะคะ