ในยุคปัจจุบัน ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้นโดยผู้บริโภคจะเน้นเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ และเน้นปรุงอาหารทานเองที่บ้าน ทำให้เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มในปี 2021 มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อนๆเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ CPLINTER จึงมาอัพเดตเทรนด์สินค้าในหมวดอาหารสำหรับใครที่กำลังมองสิ่งๆดีเพื่อส่งไปให้คนรักหรือครอบครัวที่ต่างประเทศ

อาหารน่าส่งออกไปต่างประเทศลำดับที่ 1 น้ำนมจากพืช

ปกติแล้วเรามักจะดื่มนมที่มาจากสัตว์ เช่น นมวัว แต่ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาดื่มนมที่มาจากพืชและส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น เช่น นมอัลมอนด์ นมข้าว เป็นต้น ซึ่งมีโปรตีนสูง ปราศจากน้ำตาลแลกโตส ลดโอกาสการบริโภคสารพิษที่มากับสัตว์ มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

อาหารน่าส่งออกไปต่างประเทศลำดับที่ 2 โปรตีนฟิวชัน

คนส่วนใหญ่มักจะได้รับแต่โปรตีนจากสัตว์ใหญ่ ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของสารพิษและยาปฏิชีวนะที่ถูกฉีดเข้าไปในสัตว์ โปรตีนฟิวชันจึงถูกออกแบบมาทดแทน เช่น โปรตีนจากพืชหรือถั่ว ในรูปแบบอาหารอัดแท่ง ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น แต่ก็ต้องเลือกรับประทานโปรตีนที่หลากหลายและเพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งปกติแล้วเราไม่สามารถส่งเนื้อสัตว์ไปต่างประเทศได้แต่ถ้าเป็นอาหารจากพืช ถั่วในรูปแบบอาหารอัดแท่งสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้

อาหารน่าส่งออกไปต่างประเทศลำดับที่ 3 ธัญพืช

จำพวกถั่ว อัลมอนด์ ข้าวโพด งา ข้าวโอ๊ต เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีไฟเบอร์สูง และวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย อีกทั้งมีกากใยอาหารสูงที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี

อาหารน่าส่งออกไปต่างประเทศลำดับที่ 4 อาหารเสริมชนิดผง

ส่วนใหญ่ทำมาจากผัก สมุนไพร สามารถนำมาผสมในอาหารพร้อมรับประทานได้ เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ผงผัก ผงเห็ด ผงจากขิง เป็นต้น

หากใครสนใจส่งอาหารไปต่างประเทศ อย่าลืมนึกถึง CPLINTER ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรแบบ Door To Door ทั้งบริการส่งของไปต่างประเทศทางเครื่องบิน บริการส่งของไปต่างประเทศทางรถ บริการส่งของไปต่างประเทศทางเรือ บริการบรรจุสินค้า เตรียมเอกสารสำหรับส่งออก เดินพิธีการขาเข้าและขาออก สนใจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ สอบถามซีพีแอล โทร 091-519-4426 เพื่อให้การส่งของท่านเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถนำรายละเอียดสินค้าที่ต้องการจะส่งมาให้เราช่วยตรวจสอบก่อน แชทคุยโดยตรงได้ที่ LINE ID : @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com และฝากติดตามสาระน่ารู้จากรายการของเรา CPL What is ด้วยนะคะ