HS CODE มีความสำคัญอย่างไรในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
1 กรกฎาคม 2568
ในการนำเข้าและส่งออกสินค้านั้นตามกฎหมายแล้วจะต้องมีการทำตามกฎระเบียบหรือข้อบังคับของประเทศนั้นๆ และจะต้องทำตามระเบียบของพิธีการศุลกากร แต่สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องทำให้มีความเข้าใจตรงกันทั่วโลกก็คือเรื่องของสินค้า เนื่องจากในแต่ละประเทศมีสินค้าหลากหลายชนิด ซึ่งอาจมีชื่อเรียกของสินค้าที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องมีการคิดข้อกำหนดของประเภทและชนิดสินค้าให้มีความเข้าใจที่ตรงกันและไม่ให้เกิดความผิดพลาดในระหว่างการขนส่งสินค้า ทำให้มีการกำหนดแบ่งตัวเลขออกเป็นหมวดตามประเภทของสินค้าเพื่อกำหนดเกณฑ์ที่เรียกว่า HS CODE หรือพิกัดศุลกากร CPLINTER จึงมาให้ความรู้เรื่องHS CODE มีความสำคัญอย่างไรและมีประโยชน์อย่างไรในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
HS CODE คืออะไร?
HS Code (Harmonized System) หรือพิกัดศุลกากร เป็นระบบการจำแนกประเภทและระบุชนิดของสินค้า ที่มีการยอมรับและประกาศใช้โดยองค์การศุลกากรโลก (World Customs Organization: WCO) เป็นความร่วมมือของสมาชิกกว่า 176 ประเทศ ซึ่งถือเป็นระบบสากลทางการค้าระหว่างประเทศ โดยกำหนดตัวเลขทั้งหมด 11 หลัก
-6 หลักแรกจะเป็นเลขที่กำหนดขึ้นโดยองค์การศุลกากรโลก (WCO) และได้รับการยอมรับจากองค์การการค้าโลก(WTO) เพื่อนำไปใช้เป็นสากลในทางการค้า -2 หลักถัดมาจะเป็นการแสดงพิกัดฮาร์โมไนซ์อาเซียน (CEPT Code) -3 หลักสุดท้ายจะเป็นรหัสสถิติที่กำหนดโดยแต่ละประเทศ
โดยตัวเลขทั้งหมดนี้นำไปใช้ในระบบสากลและสื่อความหมายของพิกัดที่เรียกว่า พิกัดรหัสสถิติ (Commodity code) ประกอบไปด้วย ตอน ประเภท ประเภทย่อย และรหัสสถิติ
ตัวอย่าง 1904.10.9000 มีความหมายดังนี้
1.เลข 4 ตัวแรก(1904) จะเป็นประเภท (Heading No.) -เลข 2 ตัวแรก เป็นเลขลำดับของ “ตอน” -เลข 2 ตัวหลัง เป็นเลขลำดับของ “ประเภท” 2.เลข 4 ตัวถัดมา(10.90) จะเป็นประเภทย่อย (Subheading No.) -เลข 2 ตัวแรก เป็นเลข 2 ตัวที่เหลือจากเลขชุด 6 ตัวของพิกัดศุลกากร -เลข 2 ตัวหลัง เป็นประเภทย่อยระบบพิกัด 3.เลข 3 ตัวสุดท้าย(000) คือ เลขรหัสสถิติ ซึ่งเป็นรหัสสินค้าและรหัสหน่วยสินค้า -โดยตัวเลข 3 ตัวสุดท้ายจะเป็นรหัสสถิติที่กำหนดโดยแต่ละประเทศ
ความสำคัญของ HS CODE
1.เพื่อเป็นพื้นฐานในการจำแนกประเภทสินค้าที่สอดคล้องและเป็นรูปแบบเดียวกัน 2.เพื่อการจัดเก็บสถิติการค้าระหว่างประเทศ 3.เพื่อเป็นฐานในการกำหนดอัตราศุลกากรและภาษีในประเทศ และสามารถใช้สิทธิประโยชน์ภาษีอากรในการลดหย่อนภาษี เช่น ฟอร์มต่างๆ 4.เพื่อกำกับและควบคุมปริมาณการนำเข้า-ส่งออก 5.เพื่อกำหนดกฏว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า 6.เพื่อกำหนดค่าระวางสำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ 7.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม และอำนวยความสะดวกทางการค้า
วิธีค้นหาพิกัดสินค้า
สามารถค้นหาพิกัดสินค้าได้โดย 1.เว็บไซต์กรมศุลกากร ค้นหาพิกัด 2.หาพิกัดสินค้าผ่าน Mobile Application ของกรมศุลกากร(HS Check) 3.ให้ตัวแทนเคลียร์สินค้าผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ระบุพิกัดสินค้าในการนำเข้าสินค้าให้
สรุปแล้ว การมีพิกัดศุลกากรในการเช็คประเภทสินค้าที่เป็นสากลนั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะทำให้เข้าใจตรงกันในการนำเข้าส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีการนำเข้าสินค้าได้อีกด้วย
ดังนั้นหากต้องการนำเข้าส่งออก CPLINTER ให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม พร้อมบริการอื่นๆอีกมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นบริการแพ็คสินค้า เตรียมเอกสารสำหรับส่งออก เดินพิธีการขาเข้าและขาออก สนใจส่งออก-นำเข้าสินค้า ติดต่อสอบถามซีพีแอล โทร 091-519-4426 หรือ 02-519-4426 เพื่อให้การส่งของท่านเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถนำรายละเอียดสินค้าที่ต้องการจะส่งมาให้เราช่วยตรวจสอบก่อนได้ที่ Line @cplinter
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com
บทความอื่น ๆ
17 กรกฎาคม 2568
อ่านเพิ่มเติมเครื่องหมายมอก.คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?