blog image

    ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

    3 กรกฎาคม 2568

    การเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า ต้องเกิดจากรากฐานในการผลิตที่ดี ซึ่งเกิดมาจากการสร้างคุณค่าให้แก่กิจกรรมต่างๆขององค์กร ที่มีความเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงกันเสมือนห่วงโซ่ โดยต้องคำนึงถึงทรัพยากรต่างๆขององค์กรอีกด้วย นี่คือหลักการของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งนี้คืออะไร และมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างไร วันนี้ซีพีแอลจะมาแชร์สาระน่ารู้เหล่านี้กัน

    ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) คือการอธิบายถึงคุณค่าของกิจกรรมต่างๆขององค์กรที่มีความสัมพันธ์ และเกี่ยวเนื่องกับการสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบและสินค้าภายในห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) กล่าวง่ายๆคือ กิจกรรมทุกประเภทมีส่วนในการช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการขององค์กร กิจกรรมต่างๆเริ่มตั้งแต่การจัดซื้อหรือรับวัตถุดิบ จนผ่านเข้าสู่กระบวนการแปลงสภาพ กลายเป็นสินค้าต่างๆ โดยทุกขั้นตอนจะมีการใช้ทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นเงิน บุคลากร วัตถุดิบ อุปกรณ์ต่างๆ และมีการบริหารจัดการ ซึ่งห่วงโซ่คุณค่าขององค์กรจะถูกเชื่อมต่อกับห่วงโซ่คุณค่าของผู้ส่งมอบ และห่วงโซ่คุณค่าของลูกค้าต่อกันไปเรื่อยๆนั่นเอง

    กิจกรรมภายในองค์กรตามแนวคิด ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain)

    แนวคิดนี้สามารถแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 กิจกรรม

    กิจกรรมหลัก (Primary Activities)

    กิจกรรมหลัก จะประกอบด้วยกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าตลอดกระบวนการ ซึ่งมีทั้งหมด 5 กิจกรรม Inbound Logistics เป็นกิจกรรมการจัดเตรียมความพร้อมก่อนการผลิต โดยที่มีการนำวัตถุดิบหรือส่วนประกอบต่างสำหรับการผลิตเข้ามา ประกอบไปด้วย การนำเข้า การจัดเก็บ และการวางแผนการผลิต

    Operations เป็นกิจกรรมในการผลิตสินค้า เปลี่ยนจากวัตถุดิบหรือส่วนประกอบต่างๆกลายเป็นสินค้า ประกอบไปด้วย การประกอบชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึง การบรรจุหีบห่อ การควบคุมคุณภาพของสินค้าให้ตรงตามมาตรฐาน และการบำรุงรักษาเครื่องจักรให้พร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมออีกด้วย Outbound Logistics เป็นกิจกรรมในการจัดเก็บและจัดส่งหรือกระจายสินค้า สู่ผู้ซื้อและผู้แทนจำหน่าย

    Marketing and Sales เป็นกิจกรรมในเชิงการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อตอบสนองสิ่งต่างๆ เพื่อให้บริษัทสามารถขายสินค้าได้ หรือสร้างรายได้ให้กับบริษัทนั่นเอง

    After- Sale Services เป็นกิจกรรมหลังการขายสินค้า โดยองค์กรจะต้องมีบริการหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และสร้างโอกาสในการขายครั้งต่อไปได้มากยิ่งขึ้น เช่น การรับประกันสินค้า บริการตรวจสอบและซ่อมแซม การสอบถามความพึงพอใจของลูกค้า เป็นต้น

    กิจกรรมสนับสนุน (Support Activities)

    กิจกรรมสนับสนุน หรือกิจกรรมที่จะช่วยให้กิจกรรมหลักต่างๆดำเนินงานอย่างราบรื่น ซึ่งมีทั้งหมด 4 กิจกรรม Firm infrastructure กิจกรรมหลักที่บริษัทจำเป็นต้องมี เช่น การบริหารการเงิน การวางแผนกลยุทธ์ โครงสร้างการบริหารจัดการองค์กร เป็นต้น

    Human Resources Management กิจกรรมในการจัดหา คัดเลือก และพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร และกิจกรรมบริหารจัดการเกี่ยวกับบุคลากรทั้งหมด เช่น นโยบายการจ้างงาน และการบริหารค่าตอบแทน

    Technology Development กิจกรรมด้านการบริหารและพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อใช้ในการสนับสนุนการดำเนินการของกิจกรรมหลักทั้งหมด เช่น ระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง

    Procurement กิจกรรมในการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบ และเครื่องจักรสำหรับการผลิต ซึ่งกิจกรรมหลักจะทำงานประสานงานกันได้ดีจนก่อให้เกิดคุณค่าได้นั้นจะต้องอาศัยกิจกรรมสนับสนุนทั้ง 4 กิจกรรม ในการสนับสนุนกิจกรรมหลัก และกิจกรรมสนับสนุนยังจะต้องทำหน้าที่สนับสนุนซึ่งกันและกันอีกด้วย

    ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เป็นแนวคิดบริหารระบบองค์กรที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยทุกกิจกรรมหลักในข้างต้นจะต้องอาศัยกิจกรรมสนับสนุนให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการขนส่งหนึ่งในกิจกรรมขององค์กรจะเป็นไปได้ด้วยดี หากมีผู้ช่วยในการดูแล ขนส่งสินค้า รวมถึงการแพ็คสินค้า และจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ซึ่ง CPLINTER เรามีบริการช่วยดูแลเรื่องการส่งออก-นำเข้าสินค้า พร้อมให้คำปรึกษาต่างๆอีกด้วย สามารถสอบถามได้ที่ CPL โทร 091-519-4426 เพื่อให้การส่งของท่านเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถนำรายละเอียดสินค้าที่ต้องการจะส่งมาให้เราช่วยตรวจสอบก่อนได้ที่ Line @cplinter หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com ได้เลยค่ะ

    บทความอื่น ๆ