สาระน่ารู้ ก่อนส่งออกนำเข้าสินค้าจากเยอรมนี
27 มิถุนายน 2568
ใครคิดจะทำการค้าระหว่างประเทศ ทั้งการลงทุนสั่งของส่งไปขายยังต่างประเทศ หรือนำเข้าสินค้ามาทำการค้าภายในประเทศ ประเทศเยอรมนีถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจและน่าจับตามองของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า เพราะเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งเรื่องของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี สังคม จึงก่อให้เกิดรสนิยมที่แตกต่าง นำมาสู่ความต้องการที่แตกต่างกัน ที่นักลงทุนอย่างเหล่าพ่อค้าแม่ค้าควรที่จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจก่อนเริ่มลงทุน บทความนี้ CPLINTER ได้รวบรวมสาระน่ารู้ต่างๆเกี่ยวกับการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าไปยังประเทศเยอรมนี เพื่อเป็นแนวทางแก่พ่อค้าแม่ค้าในการตัดสินใจในการลงทุนการค้ากับประเทศเยอรมนีมาฝากกัน
ส่งออกนำเข้าสินค้าจากเยอรมนีได้กี่ช่องทาง?
เนื่องจากประเทศเยอรมนี อยู่ห่างไกลจากประเทศไทย จึงสามารถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศได้เพียง 2 ช่องทาง ได้แก่ ทางเครื่องบิน และทางเรือเท่านั้น ซึ่งเราสามารถเลือกการขนส่งให้เหมาะสมกับสินค้าที่จะทำการจัดส่งได้
ช่องทางเครื่องบิน
การจัดส่งสินค้าทางเครื่องบินไปประเทศเยอรมนี เหมาะสำหรับการส่งสินค้าที่มีขนาดเล็ก มีข้อจำกัดด้านเวลาในการจัดส่ง เป็นสินค้าเร่งด่วน หรือต้องการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน โดยการส่งออกนำเข้าสินค้าจากเยอรมนีทางเครื่องบิน จะใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เราจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงความคลาดเคลื่อน และบริหารเวลาให้เหมาะสมด้วย
ช่องทางเรือ
การจัดส่งสินค้าทางเรือไปประเทศเยอรมนี เหมาะสำหรับการส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือการรวมสินค้าขนาดเล็กหลายๆชิ้นไว้ด้วยกัน และต้องการประหยัดต้นทุนในการจัดส่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและเหมาะกับพ่อค้าแม่ค้านักลงทุนที่ต้องการประหยัดงบประมาณ แต่การส่งออกนำเข้าสินค้าจากเยอรมนีทางเรือ จะใช้ระยะเวลานานพอสมควร คืออยู่ที่ประมาณ 35-40 วัน ดังนั้นควรเลือกการจัดส่งให้เหมาะสมกับความต้องการด้วยนะคะ
สินค้าน่านำเข้าจากเยอรมนี
- รองเท้า Birkenstock Puma Adidas
- กระเป๋าเดินทาง Rimowa
- วิตามินเม็ดฟู่ Das Gesunde Plus แก้วเบียร์ Beer Stein
- ครีมบำรุงผิว Balea Vital
- สกินแคร์ Dr. Hauschka Eucerin
- น้ำหอม Cologne 4711
- เยลลี่ Haribo Gummy Bears
สินค้าน่าส่งออกจากเยอรมนี
- อาหารแห้ง ที่ไม่มีส่วนผสมของ ไก่ ไข่ หมู และต้องมีฉลากที่ระบุวันเดือนปีผลิตและหมดอายุ ส่วนผสมอาหาร และสถานที่ผลิต
- ของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
ส่งออกนำเข้าสินค้าจากเยอรมนี มีกฎและเงื่อนไขอะไรบ้าง?
การส่งออกนำเข้าสินค้าประเภทอาหารไปยังประเทศเยอรมนี จำเป็นที่จะต้องมีหมายเลข EORI (Economic Operators’ Registration an Identification number) หรือหมายเลขผู้เสียภาษี ซึ่งเป็นหมายเลขที่ผู้รับสินค้าจะต้องทำการจดทะเบียนกับศุลกากรประเทศสหภาพยุโรป ซึ่งหากไม่มีหมายเลขนี้จะไม่สามารถจ่ายภาษีขาเข้าประเทศ และสินค้าอาจติดที่ด่านศุลกากร หรือโดนตีกลับได้ กฎและเงื่อนไขเกี่ยวกับภาษี กฎยกเลิกการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในการนำเข้าสินค้ายังสหภาพยุโรป ส่งผลให้ประเทศเยอรมนี 1 ใน สมาชิกของสหภาพยุโรป จะมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้าเชิงพาณิชย์ทุกชนิดที่มีการส่งเข้ามายังประเทศเยอรมนี โดยอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศเยอรมนีอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์ (VAT 19%)
โดยสรุปแล้วการส่งออกนำเข้าสินค้าจากเยอรมนี เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของพ่อค้าแม่ค้าที่จะลงทุนค้าขายต่างๆ แต่ก่อนที่จะทำการลงทุน เราจำเป็นที่จะต้องทำการศึกษาเกี่ยวกับ ช่องทางการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นทางเครื่องบินหรือทางเรือ สินค้าที่น่าสนใจในการส่งออกและนำเข้า รวมถึงกฎและเงื่อนไขต่างๆ หากต้องการนำเข้าส่งออก โดย CPLINTER ให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม พร้อมบริการอื่นๆอีกมากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นบริการแพ็คสินค้า เตรียมเอกสารสำหรับส่งออก เดินพิธีการขาเข้าและขาออก สนใจส่งออก-นำเข้า สินค้า ติดต่อสอบถามซีพีแอล โทร 091-519-4426 หรือ 02-519-4426 เพื่อให้การส่งของท่านเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถนำรายละเอียดสินค้าที่ต้องการจะส่งมาให้เราช่วยตรวจสอบก่อนได้ที่ Line @cplinter
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cplinter.com และข้อมูลเพิ่มเติมจาก WHAT IS EP.14 : ประเทศเยอรมนี https://youtu.be/CI8L1ufJ6OI
Other Blog
9 กรกฎาคม 2568
READ MOREพื้นที่ที่ห่างไกล ในการจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศ